Font Size

SCREEN

Profile

Layout

Menu Style

Cpanel

 


 

เที่ยวพม่า 3 วัน 2 คืน

รายละเอียดการเดินทางเที่ยวพม่า 3 วัน 2 คืน

กรุงเทพฯ – หงสาวดี – พระธาตุมุเตา – พระราชวังบุเรงนอง – พระธาตุอินทร์แขวน - พระธาตุอินทร์แขวน (รวมรถลงพระธาตุ) - พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว - เจดีย์ไจปุ่น - ย่างกุ้ง - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง - สิเรียม - วัดพระหินอ่อน - ช้างเผือก - เจดีย์โบตาทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี - ตลาดสก็อต

ราคาเริ่มต้น 13,888 บาท

รายละเอียดการเดินทางเที่ยวพม่า 3 วัน 2 คืน   : [เอกสาร]

วัน เวลา รายละเอียดการเดินทาง
วันแรก กรุงเทพฯ – หงสาวดี – พระธาตุมุเตา – พระราชวังบุเรงนอง – พระธาตุอินทร์แขวน (รวมรถขึ้นพระธาตุ) (-/L/D)
เช้า 04.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่ากาศยานดอนเมือง อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 3 ประตูทางเข้าที่ 1-3 เคาท์เตอร์หมายเลข 3 สายการบิน แอร์ เอเชีย (FD) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทคอยให้การต้อนรับและอานวยความสะดวก ก่อนออกเดินทาง
  07.15 น. ออกเดินทางจาก ท่ากาศยานดอนเมือง สู่สนามบินมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า แอร์ เอเชีย (FD) เที่ยวบิน FD251 ** ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง **
  08.00 น.

เดินทางถึง ท่าอากาศยานมิงกาลาดง กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจ เช็คสัมภาระเรียบร้อย ** เวลาท้องถิ่นประเทศพม่า ช้ากว่าประเทศไทย 30 นาที หรือ ครึ่งชั่วโมง **

นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองหงสาวดี หรือคนมอญเรียกว่า เมืองพะโค (Bago) ซึ่งในอดีตเป็นเมืองหลวงที่เก่าแก่ที่สุดของเมืองมอญโบราณที่ยิ่งใหญ่ และ อายุมากกว่า 400 ปี อยู่ห่างจากเมืองย่างกุ้ง ระยะทางประมาณ 80 กม. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.30 ชม. เมืองหงสาวดีเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานทั้งทางด้านพระพุทะศาสนา และ ประวัติศาสตร์ชาติพม่า นาท่านชมพระธาตุที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหงสาวดี เป็นเจดีย์เก่าแก่คู่บ้าน คู่เมืองและ ที่สำคัญ เป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า พระธาตุมุเตา หรือ เจดีย์ชเวมอดอร์ (Shwe Mordore) ภายในบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ซึ่งครั้งก่อนเป็นสถานที่ประกอบพิธีศักดิ์สิทธิ์ ก่อนออกศึกของบูรพกษัตริย์ ในสมัยโบราณกาล ไม่ว่าจะเป็นกษัตริย์มอญหรือพม่า รวมทั้งพระเจ้าบุเรงนอง และเมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและพระนางสุพรรณกัลยา ทรงประทับอยู่ในหงสาวดี ก็เคยเสด็จมานมัสการพระเจดีย์องค์นี้ สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ ที่พระเจ้าหงสาตะบินชเวตี้ ใช้เป็นที่เจาะพระกรรณ (หู) ตามพระราชประเพณีโบราณเพื่อทดสอบความกล้าหาญก่อนขึ้นครองราชย์ เจดีย์องค์นี้เคยผ่านการพังทลายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่มาแล้วถึง 4 ครั้ง ทำให้เปลียอดของเจดีย์หักลงมา แต่ด้วยความศรัทธาที่ชาวเมืองมีต่อเจดีย์องค์นี้จึงได้ทำการสร้างเจดีย์ชเวมอดอร์ขึ้นมาใหม่ในปี พ.ศ. 2497 ด้วยความสูงถึง 374 ฟุต (ครั้งแรก ของเดิมสร้างสูง 70 ฟุต) นับเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในพม่า ส่วนปลียอดที่พังลงมาก็ได้ตั้งไว้ที่มุมหนึ่งขององค์เจดีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชาควบคู่ไปกับเจดีย์องค์ปัจจุบัน ท่านจะได้นมัสการ ณ จุดอธิษฐานอันศักดิ์สิทธิ์และสามารถนาธูปไปค้ายอดของเจดีย์ที่หักลงมาเพื่อเป็นสิริมงคล ซึ่งเปรียบเหมือนดั่งการค่าจุนชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้นไป

ได้เวลาอันสมควร นำท่านชม พระราชวังบุเรงนอง และ บัลลังก์ผึ้ง (Kanbawza Thardi Palace) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2109 เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางทางการปกครองและใช้ออกว่าราชการปี พ.ศ. 2142 ในสมัยพระเจ้านันทบุเรง ซึ่งพระราชวังเดิมนั้นเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยังทรงพระเยาว์และถูกจับเป็นตัวประกัน มีการค้นพบเสาและกาแพงเดิมที่ถูกฝังอยู่ในดิน รัฐบาลพม่าได้ทาการขุดค้นสร้างพระราชวังบุเรงนองขึ้นมาใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2533 จากซากปรักหักพังที่ยังหลงเหลืออยู่ โดยถอดแบบจากของเดิมซึ่งพระตาหนักที่ประทับบรรทมสีทองเหลืองอร่ามที่ดูโดดเด่นชวนมองในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่า และท้องพระโรงที่ใช้ออกว่าการก็ดูโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมพม่าสีทองเหลืองอร่ามทั้งภายนอกและภายใน ทาให้สันนิษฐานได้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เป็นที่ประทับของ พระเจ้าบุเรงนอง ท่านผู้ที่ได้รับคาสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชนะสิบทิศ และเป็นที่ประทับของ พระนางสุพรรณกัลยา และ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครั้งต้องตกเป็นเชลยศึก เมื่อต้องเสียกรุงศรีอยุธยาให้แก่พม่า แต่ปัจจุบัน พระราชวังแห่งนี้ได้เหลือเพียงแต่ร่องรอยทางประวัติศาสตร์ และถูกสร้างจาลองพระราชวัง และตาหนักต่างๆ ขึ้นมาใหม่โดยอ้างอิงจากพงศาวดาร

 เที่ยง  12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ** เมนูพิเศษ กุ้งแม่น้าเผา ตัวใหญ่ ท่านละ 1 ตัว **
นาท่านเดินทางสู่ คิมปุนแค้มป์ (เชิงเขาไจ้โท) เพื่อเตรียมขึ้นพระธาตุอินทร์แขวน ระหว่างทางผ่านชม แม่น้าสะโตง สถานที่สาคัญทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในอดีตขณะที่สมเด็จพระนเรศวร กาลังรวบรวมคนไทยเพื่อกลับเมืองอโยธยา ได้ถูกทหารพม่าไล่ตามซึ่งนาทัพโดยสุรกรรมมา แม่ทัพกองหน้าของพระมหาอุปราชาเป็นกองหลวงยกติดตามกองทัพไทย กองหน้าของพม่าตามมาทันที่ริมแม่น้าฝั่งสะโตง ในขณะที่ฝ่ายไทยได้ข้ามแม่น้าไปแล้ว สมเด็จพระนเรศวรได้คอยป้องกันมิให้ข้าศึกตามมาได้ จึงได้มีการปะทะกันที่ริมฝั่งแม่น้าสะโตงแห่งนี้ สมเด็จพระนเรศวรทรงใช้ปืนคาบชุดยาวเก้าคืบยิงถูกสุรกรรมา แม่ทัพหน้าพม่าเสียชีวิตบนคอช้าง กองทัพพม่าเห็นแล้วขวัญเสียจึงถอยทัพกลับกรุงหงสาวดีโดยพลัน พระแสงปืนที่พระองค์ใช้ยิงสุรกรรมมาตายบนคอช้างนี้ได้นามปรากฏต่อมาว่า “ พระแสงปืนต้นข้ามแม่น้าสะโตง ” นับเป็นพระแสง อัษฎาวุธ อันเป็นเครื่อ งราชูปโภค ยังปรากฏอยู่จนถึงทุกวันนี้ . . ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ก็จะถึง คิมปุนแคมป์ เพื่อทาการเปลี่ยนเป็นรถท้องถิ่น (รถบรรทุกหกล้อ เป็นรถประจาเส้นทางชนิดเดียวที่เราจะสามารถขึ้นพระธาตุอินทร์แขวนได้) เดินทางสู่ยอดเขา . .
ค่ำ  

Kyaithto Hotel / Mountain Top Hotel หรือเทียบเท่า ** โรงแรมที่พักอยู่ห่างจากองค์พระธาตุ 500 เมตร **
บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม หลังรับประทานอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว นำท่านชมความงดงามยามค่ำคืนของ 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า พระธาตุอินทร์แขวน หรือ เจดีย์ไจ้ทีโย (Kyaikhtiyo Pagoda or Golden Rock) แปลว่า ก้อนหินทอง พระธาตุอินทร์แขวน ตั้งอยู่ที่เมืองไจ้โท อาเภอสะเทิม เขตรัฐมอญ ของพระเทศพม่า อยู่บนยอดเขา เหนือระดับน้ำทะเล 3,615 ฟุต สูง 5.5 เมตร มีลักษณะเด่นเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นเจดีย์องค์เล็กๆ ตั้งอยู่บนก้อนหินกลมๆ ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างหมิ่นเหม่ แต่ชาวพม่ามักยืนกรานว่าไม่มีทางตก เพราะพระเกศาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่บรรจุอยู่ภายในพระเจดีย์องค์ย่อมทำให้หินก้อนนี้ทรงตัวอยู่ได้อย่างสมดุลเรื่อยไป ตามคติการบูชาพระธาตุประจาปีเกิดของชาวล้านนา พระธาตุอินทร์แขวนนี้นับเป็น 1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะและยังเป็นพระธาตุประจาปีจอ (สุนัข) ที่คนเกิดปีนี้ต ้องไปนมัสการสักการะสักครั้งหนึ่งในชีวิต องค์พระธาตุอินทร์แขวนแห่งนี้มีความหมายแทนพระเกตุแก้วจุฬามณีบนสรวงสวรรค์ และชาวพม่ายังมีความเชื่อต่อไปอีกว่า ถ้าผู้ใดได้มานมัสการพระธาตุอินทร์แขวนนี้ครบ 3 ครั้ง ผู้นั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ พร้อมทั้งขอสิ่งใดก็จะได้สมดั่งปรารถนาทุกประการ ชมความสวยงามยามค่ำคืน ตามอัธยาศัย นมัสการ เทพทันใจ พระธาตุอินทร์แขวน ซึ่งเป็นนักพรตที่มีความศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่ง ท่านสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ได้ตลอดคืน หากต้องการสักการะกลางแจ้ง เป็นเวลานานหรือตลอดคืน ควรเตรียมเครื่องกันหนาว เสื้อกันหนาว กันลม หมวก ผ้าห่ม หรือผ้าพันคอ สวมถุงเท้า เบาะรองนั่ง เพราะพื้นที่นั่งมีความเย็นมาก และอากาศในเวลากลางคืนค่อนข้างเย็น มีน้ำค้าง ควรเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม พระเจดีย์จะเปิดตลอดทั้งคืน พระธาตุอินทร์แขวนนี้ เป็นที่มาและแรงบันดาลใจของกวีซีไรส์ ปี พ.ศ. 2534 มาลา คำจันทร์ ที่แต่งวรรณกรรม เรื่อง “ เจ้าจันทร์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน ”

คำแนะนำ . .

** ท่านสามารถเตรียมแผ่นทองคาเปลวไปเพื่อปิดทององค์พระธาตุอินทร์แขวนได้ **
** เข้าไปปิดทองได้เฉพาะสุภาพบุรุษเท่านั้น ส่วนสุภาพสตรี สามารถอธิฐาน และฝากสุภาพบุรุษเข้าไปปิดแทนได้ ** ** ประตูเหล็กที่เปิดสาหรับบุรุษที่เข้าไปปิดทององค์เจดีย์เปิดถึงเวลา 22.00 น. **

วันที่สอง พระธาตุอินทร์แขวน (รวมรถลงพระธาตุ) - พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว - เจดีย์ไจปุ่น - ย่างกุ้ง - พระมหาเจดีย์ชเวดากอง
เช้า 05.00 น. อรุณสวัสดิ์ยามเช้า เชิญท่านสักการะ พระธาตุอินทร์แขวนในยามเช้า หรือ ใส่บาตรพระสงฆ์ ท่านจะได้พบกับบรรยากาศยามเช้าสดชื่นทิวทัศน์งดงาม ความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บนภูเขา ถ่ายภาพและชมทัศนียภาพโดยรอบของพระธาตุ พิสูจน์ความมหัศจรรย์ว่าพระธาตุองค์นี้ตั้งอยู่ได้อย่างไร โดยไม่ล้มหรือหล่นลงมา การที่ก้อนหินสีทองวางหมื่นเหม่บนหน้าผา มานานนับพันปีโดยเฉพาะเมื่อมองจากด้านล่างขึ้นไปจะดูคล้ายว่าลอยอยู่เหนือหน้าผา ราวกับพระอินทร์นาไปแขวนไว้กลางอากาศนับเป็นอัศจรรย์เจดีย์ชาวพม่ามีความเชื่อว่าองค์พระธาตุนี้มีความศักดิ์สิทธิ์ ** กิจกรรมนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของลูกค้าแต่ละท่าน **
  06.00 น. บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
  07.00 น.

นำท่านอำลาที่พัก ออกเดินทางสู่คิมปุนแคมป์ เปลี่ยนเป็นรถโค้ชปรับอากาศ พร้อมนำท่านเดินทางสู่เมืองหงสาวดี นำท่านนมัสการ พระพุทธไสยาสน์ชเวตาเลียว (Shew Thalyang Buddha) (พระร่วมสมัยกับปราสาทบันทายสรี ของกัมพูชา) เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์อันดับสองของเมืองหงสาวดีรองจากพระธาตุมุเตา และเป็นพระพุทธไสยาสน์ที่มีความยาว 181 ฟุต สูง 50 ฟุต สร้างโดยพระเจ้าเมงกะติปะ พศ. 1537 ในสมัยมอญเรืองอำนาจ มีพุทธลักษณะงดงาม โดยจะวางพระบาทเหลื่อมพระบาท ต่างจากพระพุทธไสยาสน์ของไทยที่นิยมวางพระบาทเสมอกัน พระพุทธไสยาสน์ไม่ได้รับการดูแลจนกลายเป็นกองอิฐจมอยู่ในโคกดินจนถึงปี พ.ศ. 2424 เมื่ออังกฤษสร้างทางรถไฟสายพม่า จึงขุดพบพระนอนองค์นี้ จากนั้นปี พ.ศ. 2491 หลังจากพม่าได้รับเอกราชจึงได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์โดยการทาสี ปิดทอง ใหม่หมดทั้งองค์อย่างที่ปรากฏในปัจจุบัน ที่นี่ . . ท่านสามารถเลือกซื้อ ของฝาก อาทิ ไม้แกะสลัก ไม้จันทร์หอม ผ้าปักพื้นเมือง ผ้าพิมพ์รูปต่างๆ ในบริเวณวัด

ได้เวลาอันสมควรนำท่านนมัสการ เจดีย์ไจปุ่น มีอายุมากกว่า 500 ปี เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางประทับนั่งโดยรอบทั้ง 4 ทิศ ที่มีความงดงามเป็นเอกของศิลปะแบบมอญ ประกอบด้วยสมณะโคดม (ทิศเหนือ) พระโกนาคม (ทิศใต้) พระกกุสันโธ (ทิศตะวันออก) และพระมหากัสสปะ (ทิศตะวันตก) สร้างโดยสตรีสี่พี่น้องที่อุทิศตนให้กับพระพุทธศาสนาสร้างพระพุทธรูปแทนตนเอง และสาบานตนว่าจะไม่ข้องแวะกับบุรุษเพศ แต่หลังจากนั้นไม่นาน 1 ในสี่สาว ได้หนีไปแต่งงาน ทาให้พระพุทธรูปองค์หนึ่งได้เกิดพังทลายทันที ต่อมาได้มีการบูรณะพระพุทธรูปองค์ที่พังทลายใหม่ ทาให้พุทธรูปองค์นี้มีลักษณะสวยงาม ดูใหม่แตกต่างไปจากองค์อื่น ระหว่างทางผ่านชม ความงดงามของ เจดีย์ซูเลย์ ซึ่งเป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยมกลางเมืองย่างกุ้ง สร้างในสมัยที่อังกฤษยังปกครองพม่าอยู่

เที่ยง 12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย   นำท่านนมัสการ สถานที่สำคัญ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่า พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda) พระเจดีย์ทองคาคู่บ้านคู่เมืองประเทศพม่าอายุกว่าสองพันห้าร้อยกว่าปี เจดีย์ทองแห่งเมืองดากอง หรือ ตะเกิง ชื่อเดิมของเมืองย่างกุ้ง มหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดในพม่า สถานที่แห่งนี้มี ลานอธิฐาน จุดที่บุเรงนองมาขอพรก่อนออกรบ ท่านสามารถนาดอกไม้ธูปเทียน ไปไหว้ เพื่อขอพรจากองค์เจดีย์ชเวดากอง ณ ลานอธิษฐานเพื่อเสริมสร้างบารมีและสิริมงคล นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจาวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศรวม 8 องค์ หากใครเกิดวันไหนก็ให้ไปสรงน้าพระประจาวันเกิดตน จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต พระเจดีย์นี้ได้รับการบูรณะและต่อเติมโดยกษัตริย์หลายรัชกาล องค์พระมหาเจดีย์ เป็นเจดีย์ทองคาที่งดงาม ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางเมืองย่างกุ้ง มีความสูง 109 เมตร ประดับเพชร 544 เม็ด ทับทิม นิล และ บุษราคัมอีก 2,317 เม็ด และยังมีเพชรเม็ดใหญ่ประดับอยู่บนยอดเจดีย์ พระมหาเจดีย์ชเวดากองมีทองคาโอบหุ้มอยู่น้ำหนักถึง 1,100 กิโลกรัม โดยช่างชาวพม่า จะใช้ทองคำแท้ตีเป็นแผ่นปิดองค์เจดีย์ไว้รอบ ว่ากันว่า ทองคำที่ใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมพระมหาเจดีย์แห่งนี้มากมายมหาศาลกว่าทองคำที่เก็บอยู่ในธนาคารชาติอังกฤษเสียอีก รอบๆฐาน พระมหาเจดีย์รายล้อมด้วยเจดีย์องค์เล็กๆ นับร้อยองค์ มีซุ้มประตูสี่ด้าน ยอดฉัตรองค์พระมหาเจดีย์ประกอบด้วยเพชร และ พลอยมากมาย ภายในองค์พระมหาเจดีย์ได้บรรจุเส้นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าจำนวน 8 เส้น เป็นพระธาตุประจาปีเกิด ปีมะเมีย (ปีม้า) และยังเป็น 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า ซึ่งมีทั้งผู้คนชาวพม่า และ ชาวต่างชาติพากันสักการะทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่ขาดสาย ณ ที่แห่งนี้มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นความงามของวิหารทิศที่ทำเป็นศาลาโถงครอบด้วยหลังคาทรงปราสาทซ้อนเป็นชั้นๆ ที่เรียกว่า พญาธาตุ รายรอบองค์พระเจดีย์ งานศิลปะและสถาปัตยกรรมทุกชิ้นที่รวมกันขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของพุทธเจดีย์ล้วนมีตานานและภูมิหลังความเป็นมาด้วยกันทั้งสิ้น ชมระฆังใบใหญ่ที่ทหารอังกฤษพยายามจะเอาไปแต่เกิดพลัดตกแม่น้าย่างกุ้งเสียก่อน ทหารพยายามกู้ขึ้นมาเท่าไหร่ก็ไม่สาเร็จภายหลังชาวพม่าช่วยกันกู้ขึ้นมาแขวนไว้ที่เดิมสำเร็จ จึงถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสำเร็จ ความสามัคคี ซึ่งชาวพม่าถือว่าเป็นระฆังศักดิ์สิทธิ์ โดยให้ผู้มาเยือนตีระฆัง 3 ครั้ง แล้วอธิษฐาน ขออะไรก็จะได้ดั่งต้องการ จากนั้นให้ท่านชมแสงของอัญมณีที่ประดับบนยอดฉัตรโดยจุดชมแต่ละจุดท่านจะได้เห็นสีของอัญณีแตกต่างกันออกไป ภายในประดิษฐานพระประธาน สาหรับให้ประชาชนมา กราบไหว้บูชา
ค่ำ   บริการอาหารค่า ณ ภัตตาคาร
    ที่พัก Central Hotel / Millenium Hotel หรือเทียบเท่า
วันที่สาม สิเรียม - วัดพระหินอ่อน - ช้างเผือก - เจดีย์โบตาทาวน์ - เทพทันใจ - เทพกระซิบ - พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี - ตลาดสก็อต
เช้า  07.00 น.

บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางโดยรถโค้ชสู่ เมืองสิเรียม ซึ่งอยู่ห่างจากย่างกุ้งประมาณ 45 กิโลเมตร เมื่อเดินทางถึงสิเรียม ชมความสวยงามแปลกตาของเมือง ซึ่งเมืองนี้เคยเป็นเมืองท่าของโปรตุเกสในสมัยโบราณ ตั้งแต่ในสมัย นายพล ฟิลิป เดอ บริโต ยี นิโคเต จนมาสิ้นสุดเมื่อปี พ.ศ. 2156 ร่วมสมัยพระเจ้าทรงธรรมกรุงศรีอยุธยา ท่านจะเห็นเศษซากกำแพง สไตล์ ลูซิตา เนียนบาโรก (Lusitanian Baroque ) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำย่างกุ้งที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอิระวดี นำท่านนั่งเรือแจว ชม (Kyaik Hwaw Wun Pagoda) พระปางมารวิชัยอันงดงามบนเกาะกลางน้ำอายุนับพันปี เป็นที่สักการะของชาวสิเรียม ชมเกาะแห่งความมหัศจรรย์นี้ เพราะไม่ว่าน้ำจะสูงขึ้นสักเท่าไหร่ก็ไม่มีวันน้ำท่วมเกาะได้ ที่บริเวณท่าเทียบเรือบนเกาะ นำท่านไหว้สักการะเพื่อขอพร พระจกบาตร หรือ พระอุปคุป ที่เป็นที่นับถือของชาวพม่า สามารถซื้ออาหารเลี้ยงปลาดุกตัวใหญ่นับร้อยๆ ตัวที่ว่ายวนเวียนให้เห็นครีบหลังที่โผล่เหนือผิวน้ำ นำท่านนมัสการ พระหินอ่อน แห่ง วัดเจ้าดอจี (Marble Buddha) ซึ่งเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปทาจากหินอ่อนองค์ใหญ่ที่สุดของประเทศพม่าประดิษฐานอยู่ พระพุทธรูปสร้างในสมัยนายพลตานฉ่วย มีการขุดพบหินอ่อนก้อนใหญ่ที่สุดที่ยะไข่ จึงได้มีการแกะสลักบางส่วน และจัดส่งมาที่ย่างกุ้งแกะสลักโดยช่างชาวเมืองมัณฑะเลย์ นำมาแกะสลักจนแล้วเสร็จโดยพระพุทธรูปมีสีขาวสะอาดไม่มีตาหนิ สูง 37 ฟุต กว้าง 24 ฟุต หนัก 600 ตัน เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งพระหัตถ์ขวาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากสิงคโปร์ และศรีลังกา ยกขึ้นหันฝ่าพระหัตถ์ออกจากองค์ หมายถึงการไล่ศัตรูและประทานความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ยังมีการนำหินที่เหลือมาสลักเป็นพระพุทธบาท ซ้าย ขวา ประดิษฐานอยู่บริเวณด้านหลังพระพุทธรูป พระหินอ่อนจะถูกนำเก็บไว้ในห้องกระจกติดแอร์ เพราะคุณสมบัติของหินอ่อนหากโดนอากาศร้อนจะทาให้เนื้อหินแตกร้าวได้ นาท่านชมความน่ารัก แสนรู้ ของ ช้างเผือก ที่เป็นช้างคู่บ้านคู่เมืองของพม่า มีสีขาวเผือกตลอดทั้งตัว มีลักษณะทั้ง 9 ประการตรงตามตาราโบราณ ซึ่งหาชมได้ยากในปัจจุบัน จานวน 3 เชือก นำท่านชม เจดีย์โบตาทาวน์ สร้างโดยทหารพันนายเพื่อบรรจุพระบรมธาตุที่พระสงฆ์อินเดีย 8 รูป ได้นำมาเมื่อ 2,000 ปีก่อน ในปี 2486 เจดีย์แห่งนี้ถูกระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตรเข้ากลางองค์จึงพบโกศทองคาบรรจุพระเกศาธาตุและพระบรมธาตุอีก 2 องค์ พบพระพุทธรูปทอง เงิน สาริด 700 องค์ และจารึกดินเผาภาษาบาลีตัวหนังสือพราหมณ์อินเดียทางใต้ต้นแบบภาษาพม่า ภายในเจดีย์ที่ประดับด้วยกระเบื้องสีสันงดงาม และมีมุมสาหรับฝึกสมาธิหลายจุดในองค์พระเจดีย์ ภายในประดิษฐาน นัตโบโบยี 5 หรือ พระเทพทันใจ เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ของชาวพม่าและชาวไทย วิธีการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบยี) เพื่อขอสิ่งใดแล้วสมตามความปรารถนาก็ ให้เอาดอกไม้ ผลไม้ โดยเฉพาะมะพร้าวอ่อน กล้วย หรือผลไม้อื่นๆมาสักการะ นัตโบโบยี จะชอบมาก จากนั้นก็ให้เอาเงินจะเป็นดอลล่า บาท หรือจ๊าด ก็ได้ (แต่แนะนาให้เอาเงินบาทดีกว่าเพราะเราเป็นคนไทย) แล้วเอาไปใส่มือของนัตโบโบยีสัก 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมา 1 ใบ เอามาเก็บรักษาไว้ จากนั้นก็เอาหน้าผากไปแตะกับนิ้วชี้ของนัตโบโบยี แค่นี้ท่านก็จะสมความปราถนาที่ขอไว้ จากนั้นนำท่านข้ามฝั่งไปอีกฟากหนึ่งของถนน เพื่อสักการะ เทพกระซิบ ซึ่งมีนามว่า อะมาดอว์เมี๊ยะ ตามตานานกล่าวว่า นางเป็นธิดาของพญานาค ที่เกิดศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ซึ่งชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมานานแล้ว ซึ่งการขอพรเทพกระซิบต้องไปกระซิบเบาๆ ห้ามคนอื่นได้ยิน ชาวพม่านิยมขอพรจากเทพองค์นี้กันมากเช่นกัน การบูชาเทพกระซิบ บูชาด้วยน้ำนม ข้าวตอก ดอกไม้ และผลไม้

เที่ยง 12.00 น. บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร ** เมนูพิเศษ เป็ดปักกิ่ง และ สลัดกุ้งมังกร **
บ่าย  

จากนั้นนำท่านสักการะ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี (Kyauk Htatgyi Buddha) หรือ พระนอนตาหวาน ที่วัดเจาทัตยี เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ มีพระโอษฐ์สีแดง พระพักตร์และขนตาที่งดงาม ดวงตาของท่านเป็นแก้วที่สั่งผลิตมาจากต่างประเทศ สูง 6 ชั้น ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1966 แทนองค์เดิมที่เคยสร้างขึ้นในปี 1907 โดยมีโครงเหล็กความยาว 65 เมตร กันและหลังคาคลุมถึง 6 ชั้น พระนอนองค์นี้มีขนาดใหญ่กว่าพระนอนชเวตาเลียวที่เมืองหงสาวดี รอบองค์พระอุโบสถมีพระสงฆ์จานวนกว่า 600 องค์ประดิษฐานอยู่ องค์พระห่มจีวรที่มีความพริ้วไหวสมจริงและเองเดินมายังปลายสุดพระบาทของพระนอนองค์นี้ ตรงพระบาทมีรูปมงคล 108 ประการ สลักอยู่ นาท่านช้อปปิ้ง ตลาดสก๊อต (Scot Market) เป็นตลาดเก่าแก่ของชาวพม่า สร้างขึ้นโดยชาวสก๊อตในสมัยที่ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ เป็นลักษณะอาคารเรียงต่อกันหลายหลัง สินค้าที่จำหน่ายในตลาดแห่งนี้มีหลากหลายชนิด เช่น เครื่องเงิน ที่มีศิลปะผสมระหว่างมอญกับพม่าภาพวาด พระพุทธรูปไม้หอมแกะสลัก อัญมณี หยกพม่า ผ้าทอ ผ้าปักพื้นเมือง เสื้อผ้าสำเร็จรูป แป้งทานาคา เป็นต้น ** หากท่านซื้ออัญมณีหรือสินค้าที่มีราคาสูงควรขอใบเสร็จรับเงินด้วย ทุกครั้ง เนื่องจากศุลกากรอาจขอตรวจสอบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศุลกากร เป็นกรณี **

ค่ำ   ให้ท่านอิสระอาหารค่าย่านตลาดสก็อตเพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้ง
ได้เวลาอันสมควร นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากายานมิงกาลงดง เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับ
    Maru Hotel Or GM Vill Hotel หรือเทียบเท่า

***หมายเหตุโปรแกรมอาจมีการปรับเปลี่ยนตามความเหมาะสม***

รายละเอียดการเดินทางเที่ยวพม่า 3 วัน 2 คืน   : [เอกสาร]

 

 

 

 

 

 

 

รับจัดโปรแกรม ทำแลนด์ลาวใต้ / เวียงจันทน์ - วังเวียง - หลวงพระบาง/กัมพูชา/เวียดนาม

จัดโปรแกรม private กรุ๊ป/หมู่คณะ/จอยกรุ๊ป ตามความต้องการของลูกค้า